อาหารไทย

อาหารไทยฟิวชั่น เป็นการทำอาหารแบบใหม่ที่นิยมมากในสมัยนี้ เพราะคุณจะได้ทานเมนูแปลกๆ ที่ไม่สามารถหากินได้จากที่ไหน และอาจจะแปลกใจกับความอร่อยที่ลงตัว กับสองเมนูที่ไม่คิดว่าจะเข้ากันได้ แต่กลับออกมาดีกว่าที่คิด วันนี้เราจะพามาทำอาหารไทยแบบฟิวชั่นกัน รับรองว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบแล้ว การทำอาหารในครัวของคุณจะเปลี่ยนไป! สปาเก็ตตี้น้ำยากะทิ ใครจะไปคิดว่าน้ำยากะทิของบ้านเรา เมื่อเอาไปราดบนเส้นสปาเก็ตตี้จะกลายเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่มีความลงตัวในแบบที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันมีมานานแล้วโดยเฉพาะกับสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน ที่เรามักจะหากินได้ตามร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบมัน ส่วนวิธีทำก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ใช้เวลาเตรียมและทำไม่ถึง 1 ชั่วโมง ถ้าคุณรู้สึกชื่นชอบ ก็อาจลองเปลี่ยนไปทำน้ำยาแบบอื่นๆดูก็ไม่เสียหาย พิซซ่าหน้ากะเพรา มีใครไม่เคยกินข้าวผัดกะเพราะบ้าง ผมว่าไม่มีหรอกที่คนไทยไม่เคยกิน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันไปอยู่บนอาหารฝรั่งอย่าง “พิซซ่า” การทำมันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเล็กน้อย แต่ถ้าคุณรักในการทำอาหารก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งอันดับแรกที่คุณต้องทำคือการทำแป้งพิซซ่า จากนั้นให้ทำการผัดกระเพรากับเนื้อสัตว์ที่ต้องการ เมื่อได้ก็นำมาใส่ลงบนแป้ง ก่อนที่จะตอกไข่ใส่ลงไป และนำไปอบไฟด้วยอุณภูมิไม่ต่ำกว่า 180 องศา เป็นเวลาประมาณ 18 นาที ก่อนที่จะนำมาโรยหน้าด้วยใบกะเพราก่อนนำไปเสิร์ฟ แซลมอนทอดน้ำปลา คุณอาจจะเคยชินกับ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” แต่วันนี้เรามาแปลกกว่าด้วยการฟิวชั่นมันกับ “ปลาซอลแมนแทน” ซอลมอนเป็นปลาที่ชื่นชอบสำหรับคนไทย เป็นเมนูทั่วไปของคนญี่ปุ่น สามารถนำมาทอดไปเลยโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน 20

แกงเขียวหวานถือเป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติเอง จุดเด่นสุด ๆ ของเมนูนี้อยู่ที่พริกแกงเขียวหวานซึ่งเป็นสูตรคนไทยแท้ ๆ ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นให้ความอร่อยแบบช้านาน ส่วนเนื้อสัตว์ที่จะใช้แกงอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนได้เลย บางคนชอบเนื้อ, ไก่, หมู หรือแม้แต่กุ้งก็ไม่ใช่ปัญหา ไหน ๆ เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าหัวใจหลักของแกงเขียวหวานคือพริกแกงเขียวหวานดังนั้นลงมาทำความรู้จักกับสูตรพริกแกงเขียวหวานโบราณกันหน่อยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง เผื่อใครอยากได้รสชาติดั้งเดิมแท้ ๆ ของแกงเขียวหวานเอาไปลองทำทานกัน วัตถุดิบสำหรับทำพริกแกงเขียวหวานโบราณ พริกขี้หนูสด 20 เม็ด, เม็ดผักชี 1 ช้อนชา, เม็ดยี่หร่า 1 ช้อนชา, ข่าซอยแบบละเอียด 1 ช้อนชา, พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา, ตะไคร้ซอย 2 ช้อนชา, ผิวมะกรูดฝาน 1 ช้อนชา, กระเทียมไทย ครึ่งช้อนชา, หอมแดงประมาณ 7 หัว, กะปิ 2 ช้อนชา, รากผักชีซอย 2 ต้น 20

อาหารขึ้นชื่อของเมืองไทยอย่างหนึ่งไม่ว่าคนไทยเองหรือชาวต่างชาติเมื่อมีโอกาสมาเยือนถึงเมืองนี้ต่างก็ต้องชอบในรสชาติเหมือนกันนั่นคือ ผัดไท อาหารง่าย ๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ พอพูดถึงผัดไทชื่อร้านที่คนทั่วไปทั้งไทยและเทศต้องรู้จักกันอย่างดีนั่นคือ ผัดไทประตูผี สุดยอดร้านผัดไทระดับตำนานอันเลื่องชื่อ แต่ละวันจะมีคนต่อคิวกันเป็นจำนวนมากเพื่อหวังได้ลองลิ้มชิมรสกับรสชาติผัดไทดั้งเดิมแท้ ๆ ร้านผัดไทที่ใครก็ต้องบอกว่าอร่อย สุดยอดผัดไทแสนอร่อย ผัดไทประตูผี ร้านผัดไทประตูผีตั้งอยู่บริเวณสี่แยกสำราญราษฎร์ ชื่อหน้าร้านจะเขียนว่าทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ก่อนอื่นต้องขออธิบายเรื่องที่มาของชื่อประตูผีกันก่อน ในอดีตบริเวณที่ร้านผัดไทตั้งอยู่นี้เพราะในยุคหนึ่งของเมืองไทยเกิดโรคระบาดคืออหิวาตกโรคส่งผลให้มีชาวบ้านเสียชีวิตกันเป็นจำนวนมากทำให้ต้องมีการหามศพออกผ่านทางประตูเมืองเพื่อเอามาเผาที่วัดสระเกศ ประตูดังกล่าวจึงเรียกกันว่า ประตูผี คราวนี้มาพูดถึงเรื่องผัดไทกันต่อดีว่าการเดินทางไปไม่ยากแค่ผ่านไปแยกสำราญราษฎร์แล้วเห็นคนยืนมุง ๆ กันตั้งแต่หัววันนั่นแหละใช่เลย เมื่อเข้าไปในร้านจะพบกับการตกแต่งของร้านที่นิยมใช้ของแบบวินเทจเพื่ออนุรักษ์ความเป็นไทยเอาไว้อย่างเต็มที่ ก่อนจะเลือกสั่งผัดไทของขึ้นชื่อร้านนี้แนะนำให้สั่งน้ำส้มเย็น ๆ ดื่มให้ชื่นใจก่อน บอกเลยว่าน้ำส้มที่นี่อร่อยมากแต่ราคาจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาส้มในช่วงนั้น และแล้วก็มาถึงทีเด็ดนั่นคือผัดไท ร้านผัดไทประตูผีจะมีเมนูผัดไทให้เลือกหลากหลายมากประกอบไปด้วยผัดไทเส้นจันท์ธรรมดาใส่ไข่ 50 บาท, ผัดไทเจ 50 บาท, ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้งใส่ไข่ 60 บาท, ผัดไทเส้นจันท์มันกุ้งกุ้งสด (ห่อไข่) 80 บาท เมนูต้องลอง, ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้งกุ้งสด(ใส่ไข่) 80 บาท เมนูห้ามพลาด, ผัดไทไม่ใส่เส้นใส่ไข่ 80 20

อาหารไทยโดยเฉพาะอาหารทะเล อาหารซีฟู้ดนั้นจัดว่ามีทั้งปริมาณ คุณภาพ และความหลากหลายเต็มไปหมด หอย ปลา ปลาหมึก ปู และอีกมากมาย ยิ่งได้มาจับคู่กับเครื่องเทศ เครื่องเคียงอันอุดมสมบูรณ์ในบ้านเรา ยิ่งเป็นการจับคู่ที่เข้ากันดีเหมือนกิ่งทองใบหยกก็ว่าได้ ผลคือ อาหารซีฟู้ดหลากหลายรูปแบบ จัดจ้านไม่เหมือนใคร อย่างเช่น ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว หนึ่งในเมนูอาหารซีฟู้ด ที่หลายคนกินแล้วต้องขอเพิ่มอีกนั่นคือ ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว อาหารซีฟู้ดทำมาจาก ปลาหมึกไข่ตัวอวบๆ เนื้อขาว กรอบ กินแล้วฟิน จับคู่กับเครื่องเทศ เครื่องเคียงรสชาติจัดจ้าน จิ๊ดจ๊าด อย่าง กระเทียม น้ำมะนาว น้ำปลา พริก ส่งให้เนื้อปลาหมึกไร้รสชาติกลายเป็น เนื้อปลาหมึกฉ่ำไปด้วยน้ำปรุงรสกินแล้วแซ่บเวอร์ กินง่าย ขวัญใจกับแกล้ม อาหารเมนูนี้แม้ว่าจะกินเล่นก็ได้ กินเป็นกับข้าวก็ได้ แต่กินเป็นกับแกล้มนี่ดีที่สุด อาหารรสชาติจัดจ้าน กินง่าย เปรี้ยวเผ็ดซี้ดนี่แหละ เข้าคู่กันกับเครื่องดื่มหลากหลายสีอย่างแน่นอน ไม่แปลกที่เมนูปลาหมึกไข่นึ่งมะนาวจะเป็นขวัญใจวงกับแกล้ม แทบทุกร้านต้องมีเมนูนี้ติดไว้ รับรองว่าเครื่องดื่มวงไหนต้องสั่งมากิน ขั้นตอนการทำเมนูนี้ ไม่เพียงแค่กินง่าย 20

อาหารไทยจัดมีเอกลักษณ์ในตัวเองค่อนข้างมากทีเดียว เนื่องจากประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายของวัตถุดิบเป็นที่ตั้ง อาหารไทยมีหลายเมนูที่มีชื่อเสียง อีกหนึ่งเมนูยอดฮิต นั่นคือ ปลากระพงนึ่งมะนาว กับข้าวก็ได้กับแกล้มก็ดี ปลากระพงนึ่งมะนาว จัดเข้าข่ายเมนูยอดฮิตเพราะว่าเมนูนี้สามารถนำไปกินได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการกินเมนูนี้ในฐานะกับข้าว ไม่ว่าจะกินคนเดียว หรือจะกินด้วยกันก็ทำได้ เรามักจะเห็นเมนูนี้ขึ้นโต๊ะจีน โต๊ะอาหารอยู่บ่อยๆ อีกมุมหนึ่ง ปลากระพงนึ่งมะนาวก็เป็นเมนูเอาใจกับแกล้มคนชอบดื่มเมนูนี้กินได้เหมือนกัน ปลากินง่ายได้ทุกคน เมนูปลากระพงนึ่งมะนาวทำไมถึงยอดฮิต ก็เพราะว่าเมนูนี้ทำมาจากปลา ปลากระพง เนื้อขาว นิ่ม กินแล้วแทบจะละลายในปากได้เลย ยิ่งถ้าปลาสดใหม่มาทำด้วยนะ ยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อย สด และเต็มไปด้วยคุณค่าสารอาหารครบถ้วนกันเลย รสชาติหวานอมเปรี้ยว รสชาติของเมนูนี้ต้องบอกเลยว่า รสชาติกลมกล่อมเลยทีเดียว รสชาติอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น หวาน เปรี้ยว เผ็ด พอเข้าไปในปากแล้วมันให้ความรู้สึกหลากหลายแต่กลับจัดจ้าน จิ๊ดจ๊าดแบบไม่น่าเชื่อ รสชาติแบบนี้แหละถูกปากคนไทยอย่างมาก ยิ่งได้ซดน้ำปรุงรสด้วยนะเปรี๊ยวจิ๊ดขึ้นสมองแต่ว่าอร่อยสุดๆไปเลย ความอร่อยแบบนี้ลามไปจนถึงชาวต่างชาติหากได้กินคำแรกแล้วอาจจะบ่นว่า เผ็ดไปสักหน่อยแต่ว่าก็เห็นกินจนหมดจานแทบทุกคนซะอย่างนั้น ขั้นตอนการทำเมนูนี้ อ่านมาถึงบรรทัดนี้ หลายคนก็คันไม้คันมืออยากจะเข้าครัวไปทำเมนูกัน เมนูนี้บอกเลยว่าไม่ยากอย่างทีคิด เริ่มจากจัดการปลากระพงให้เรียบร้อยก่อน (ขอดเกล็ด ล้างท้องปลา เอาเครื่องในออกทำความสะอาดให้เรียบร้อย) แล้วก็เอาปลาขึ้นไปนึ่งได้เลย 20

หากจะกล่าวถึงอาหารอันเป็นที่ถูกอกถูกใจถูกปากของคนไทยแล้วล่ะก็คงไม่พ้นอาหารจากชาติไทยของเราเป็นแน่แท้ เพราะความหลากหลายและรสชาติถึงอกถึงใจ จนไม่เพียงแต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น คนต่างชาติก็ต่างหลงใหลอาหารไทยไม่แพ้กัน วันนี้เราจะมาดูกันว่า คนยุคใหม่นิยมร้านอาหารไทยประเภทไหนที่สุดกันบ้าง ร้านอาหารไทยอีสาน ความแซบของอาหารประเภทไทยอีสานนั้นเป็นที่นิยมไปทั่วทุกหัวระแหงไม่ว่าจะเป็นภาคไหนของไทย ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีร้านส้มตำ ความหลากหลายของเมนูที่ทำให้รับประทานกันได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ทั้งส้มตำปลาร้า ส้มตำปูปลาร้า ซุปหน่อไม้ ลาบ น้ำตก แกงอ่อม ต้มแซบ ต่างก็เป็นที่นิยมทั้งสิ้น และไม่เพียงเท่านั้นยังมีเมนูอื่น ๆ ขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความอร่อยและหลากหลาย เช่น ไก่ย่าง คอหมูย่าง เนื้อย่าง ส้มตำผลไม้ ปลาดุกย่าง ยำประเภทต่าง ๆ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกอกถูกใจมักเป็นที่นิยมของคนไทยทุกเพศทุกวัย ร้านจิ้มจุ่ม แม้ว่าปัจจุบันร้านอาหารต่างประเทศแนวนี้จะเข้ามามีอิทธิพลในเมืองไทยอย่างมาก เช่น ชาบู เป็นต้น แต่ความแซ่บของไทยก็ยังเป็นที่นิยมไม่เป็นรองใคร ไทยเรายังมีจิ้มจุ่มที่มีน้ำซุบที่กลมกล่อมโดยปรุงด้วยสมุนไพรไทยลงไป ทำให้มีความหอมครบเครื่องถือว่าเป็นเอกลักษณ์ ร้านประเภทจิ้มจุ่มก็จะมีทั้งเนื้อ หมู ปลา บางร้านอาจมีจำพวกปลาหมึก กุ้ง หรืออาหารทะเลอื่น ๆ เสริมไว้บริการลูกค้า เมื่อบวกกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซบแล้วยิ่งเพิ่มความอร่อย ร้านหมูกระทะ ร้านหมูกระทะ 20

ในโลกกลมๆใบนี้ยังมีหลายสิ่งที่คุณเองอาจจะไม่รู้มาก่อนทั้งเรื่องของการดำรงชีวิตและเรื่องของอาหารการกินที่มักจะมีอะไรแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นอีกมากมาย แน่นอนว่าอาหารที่อร่อยของคนบางคน อาจจะกลายเป็นอาหารที่แปลกประหลาดของคนอีกหลายคนก็ได้ หรือบางทีก็สุดแปลกน่าขยะแขยงจนไม่อยากแม้แต่จะมอง แต่ลองมาดูกันดีไหมคะว่าสุดยอดอาหารแปลกจากทั่วโลกมีอะไรกันบ้าง 1. ไข่บาลุท เป็นสุดยอดอาหารแปลกที่มักจะติดโพลของทุกสำนักแถมจะอยู่อันดับต้นๆเสมอ ซึ่งเจ้าไข่บาลุทที่ว่านี้ก็คือการนำไข่ของเป็ดหรือไก่มาต้มทั้งๆที่ภายในยังมีตัวอ่อนเกือบเต็มวัยอยู่ในนั้นด้วย ไข่บาลุทสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีขายอยู่ตามท้องถนน ส่วนรสชาตินั้นคนที่เคยได้ชิมต่างบอกว่าแสนจะธรรมดาเหมือนกับการกินไก่ดีๆนั่นเอง 2. ซานนาคจิ ลักษณะจะคล้ายการกินซาชิมิและซูชิก็คือการกินอาหารทะเลดิบๆ แต่ส่วนซานนาคจิอาหารจานเด็ดของชาวเกาหลีจะมีความแตกต่างออกไปคือคุณจะได้กินสัตว์ทะเลที่ยังไม่ตาย โดยเริ่มต้นจากการนำลูกปลาหมึกเป็นๆมาแล่ออกเป็นชิ้นๆพร้อมปรุงด้วน้ำมันงา ซึ่งหนวดปลาหมึกยังต้องกระดุกกระดิกขณะที่ถูกนำมาเสิร์ฟ คนที่กินไม่ระวังอาจจะไปติดปากและคอหอยได้คะ 3. คาสุ มาร์ซู อาหารสุดพิศดารจานนี้มีที่มาจากเมืองซาร์ดิเนียในอิตาลี โดยเป็นการทำเนยแข็งที่หนอนตัวอ่อนอาศัยอยู่พวกมันถูกใส่เข้าไปในก้อนเนยแข็งอย่างตั้งใจเพื่อเพิ่มระดับการหมักให้เข้มข้นขึ้นจนถึงจุดไขมันของเนยแข็งแตกตัว หนอนที่เล็กและโปร่งแสงนี้กระโดดสูงถึงครึ่งฟุตหากโดนรบกวนเพราะฉะนั้นก่อนกินจึงต้องเอาเจ้าหนอนพวกนี้ออกเสียก่อน 4. ร็อคกี้ เมาน์เท่น ออยสเตอร์ อาหารจานนี้ไม่ได้หมายถึงหอยนางรม แต่มันคือชื่อเรียกอัณฑะทอดกรอบของกระบือ วัว หรือหมูป่า โดยจะอัณฑะมาลอกผิดด้านนอกออก เสร็จแล้วนำไปต้มและผสมกับแป้งจากนั้นก็ทอด โดยจะเสิร์ฟพร้อมราดด้วยซอสค็อลเทลแต่เมนูนี้คุณผู้ชายมีร้อนๆหนาวๆแน่นอนคะ 5. ปลาดาวทอด แม้ว่าปลาดาวจะมีหนามที่แข็งราวกับชุดเกราะปกคลุมอยู่ทั่วแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักเปิบพิสดารเพราะชาวจีนประสบความสำเร็จในการทำลายเปลือกหุ่มแล้วนำเนื้อสีเขียวภายในมาทำเป็นอาหารรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย อาหารก็คือข้อบ่งบอกวัฒนธรรมของท้องถิ่นอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นใครถนัดกินอย่างไรก็ต้องแล้วแต่ล่ะคะ อย่าไปตัดสินเค้าแค่จากอาหารการกิน

เชียงใหม่จัดว่าเป็นดินแดนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างอยากจะไปท่องเที่ยวเพราะนอกจากบรรยากาศจะสวยงามแล้ว เรื่องอาหารพื้นเมืองก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ซึ่งมีอาหารให้เลือกมากกว่า 200 ชนิด ส่วนรสชาติก็ไม่จัดจ้านมากเกินไปเหมือนภาคอื่นๆจึงทำให้หลายคนติดใจกันมานักต่อนักแล้ว เรามาดูกันดีกว่าคะว่าอาหารพื้นเมืองของเชียงใหม่แท้ๆมีอะไรกันบ้าง เผื่อคราวหลังไปเที่ยวจะได้สั่งมากินได้อย่างถูกต้องคะ 1. น้ำพริกหนุ่ม เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของชาวเหนือ เพราะทำมาจากพริกอ่อนหรือที่คนเชียงใหม่เรียกกันว่า “พริกหนุ่ม” เมื่อนำมาจิ้มกับข้าวเหนียว แกล้มด้วยผักหรือแคปหมูยิ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี 2. น้ำพริกอ่อง ดั่งเดิมนั้นน้ำพริกอ่องเป็นน้ำพริกที่นำมาจากพม่า ส่วนผสมจะเข้มข้นด้วยหมูสับที่โขลกเข้ากับเครื่องพริกจากนั้นก็นำไปผัดน้ำมันเติมน้ำนิดหน่อย จิ้มทานกับข้าวนึ่ง แกล้มผักดิบหรือผักลวกอร่อยอย่าบอกใครเลยคะ 3. แกงฮังเล เป็นอาหารที่นำเข้ามาจากพม่า โดยจะมีเนื้อหมูเป็นหลัก แกงด้วยกะทิและมีผงกะหรี่หรือผงฮังเลจะคล้ายๆกับแกงมัสมั่นของไทย ซึ่งจะมีทั้งเนื้อหมูสามชั้น และเนื้อหมูที่เป็นมันทำให้ดูน่ากินมาก ส่วนรสชาตินั้นจะมีรสเค็มนำตามด้วยหวานและเปรี้ยวเล็กน้อย 4. แกงแค เป็นแกงที่รวบรวมผักจากทางเหนือมาปรุง โดยใช้ผักอ่อนหลายชนิด แต่ที่เป็นตัวหลักเลยก็คือชะอม หากขาดชะอมก็ไม่สามารถเรียกว่าแกงแคได้ ส่วนเครื่องปรุงจะมีส่วนคล้ายกับแกงส้ม แต่จะไม่ใส่น้ำตาลและน้ำส้มมะขาม แต่จะใส่น้ำปลาร้าเป็นตัวชูรสแทนน้ำปลาด้วย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆฟินอย่าบอกใครเลยล่ะคะ 5. ข้าวซอย อาหารขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างที่คนไปเที่ยวเชียงใหม่ไม่กินไม่ได้ที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีนฮ่อ ตามสูตรดั่งเดิมคือน้ำแกงจะต้มด้วยกระดูกเนื้อเคี่ยวกับเนื้อหมูและเครื่องแกง ไม่ใส่กะทิลงไปเหมือนปัจจุบัน จะใส่ก็ต่อเมื่อนำมาปรุงในชามก่อนเหยาะซีอิ๊วใส่พริกป่นผัดน้ำมันแล้วจึงใส่เส้นบะหมี่ที่ลวกจนนุ่มดีแล้ว ตักน้ำแกงและเนื้อราดบนบะหมี่ โรยต้นหอม ผักชีซอยอร่อยจนต้องขอจานที่ 2 ยังมีอาหารพื้นเมืองของชาวเชียงใหม่อีกมากมายที่เรายังนำมาฝากกันได้ไม่หมด 20

“มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ผันหา ” กาพย์เห่เรือนชมเครื่องคาว-หวานนี้ คนไทยส่วนใหญ่คงพอคุ้นชินหูกันมาบ้างเพราะถูกบรรจุเข้าในตำราเรียนวิชาภาษาไทยตั้งแต่ยังเด็ก  แถมตอนนี้แกงมัสมั่นไก่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกจากโพลของ CNN สาเหตุน่าจะเป็นเพราะมัสมั่นไก่มีกลิ่นเครื่องเทศหอมติดจมูก และปรุงผสมกับเนื้อไก่ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมไม่เผ็ดมากเกินไป สามารถรับประทานได้ทุกวัยและทุกชนชาติอีกด้วย แกงมัสมั่นดั่งเดิมนั้นเป็นของชาวอินเดียวเจ้าแห่งเครื่องเทศนานาชนิด ซึ่งจะมีรสชาติที่เน้นเผ็ดร้อน หวาน เค็ม และมัน เมื่อชาวอินเดียวมีการย้ายถิ่นฐานไปที่ต่างๆก็จะนำแกงมัสมั่นเข้าไปยังประเทศนั้นๆด้วย ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนสูตรให้ถูกกับลิ้นของประเทศนั้นๆ เช่นการเปลี่ยนเนื้อสัตว์ หรือเพิ่ม-ลดเครื่องเทศเป็นต้น ส่วนตามประวัติศาสตร์แกงมัสมั่นเข้าไทยมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็กพระนารายณ์มหาราช โดยแขกเปอร์เซีย หรือชาวอิหร่าน ถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอาหารระหว่างไทยกับเปอร์เซีย และถูกนำมาบรรจุเข้าทำเนียมอาหารไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 หรือประมาณกว่า 230 ปีมาแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นต้นตำรับของชาวไทยจะได้รับอิทธิพลมาจากทางมลายูที่จะมีการเพิ่มกานพลู อบเชย หอมแดง และพริกป่นลงเข้าไปผัดเพื่อเพิ่มความหอมให้กับเครื่องแกงอีกด้วย  จึงมีหลายสูตร ให้เลือกรับประทาน ความอร่อยก็จะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน นอกจากแกงมัสมั่นไก่จะมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมแล้ว แกงมัสมั่น 1 ถ้วย ยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อาทิเช่น อบเชย แก้อาหารท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้อีกด้วย หัวหอมแขก ช่วยบรรเทาอาการหวัด 20